1. พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเสียภาษีไหม?

คำตอบคือ “ต้องเสียภาษี” หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) – หากขายของในชื่อบุคคลทั่วไป ต้องเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า
ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด. 50) – หากจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ต้องเสียภาษีจากกำไรสุทธิ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) – หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

💡 พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีรายได้แต่ไม่เคยยื่นภาษี อาจถูกตรวจสอบย้อนหลังได้!


2. 5 วิธีที่สรรพากรใช้ตรวจสอบรายได้ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์

🔹 1) ตรวจสอบบัญชีธนาคารและธุรกรรมทางการเงิน

📌 ปัจจุบันสถาบันการเงินต้องส่งข้อมูลธุรกรรมที่เข้าเกณฑ์ให้กรมสรรพากร ได้แก่:
บัญชีที่มีเงินเข้า 3,000 ครั้งขึ้นไปต่อปี
บัญชีที่มียอดเงินเข้า 400 ครั้ง และมียอดรวมตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี

💡 หากใช้บัญชีส่วนตัวรับโอนเงินจากลูกค้า อาจเข้าข่ายถูกตรวจสอบ ควรแยกบัญชีธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัว


🔹 2) ตรวจสอบจากแพลตฟอร์มออนไลน์ (Marketplace & Social Media)

📌 สรรพากรมีข้อตกลงกับแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee, TikTok Shop รวมถึงบริการโฆษณาออนไลน์ เช่น Facebook Ads และ Google Ads

✅ สามารถขอข้อมูลยอดขายและโฆษณาได้
✅ ตรวจสอบว่าผู้ขายมีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

💡 ถ้าคุณลงโฆษณาเยอะ หรือมียอดขายสูงแต่ไม่เคยยื่นภาษี อาจถูกเรียกตรวจสอบได้!


🔹 3) ตรวจสอบจากระบบ E-Payment และ Payment Gateway

📌 การรับเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
✅ PromptPay
✅ QR Code
✅ PayPal
✅ บัตรเครดิต/เดบิต

💡 หากมีเงินเข้าบัญชีจากการขายของออนไลน์ แต่ไม่มีการยื่นภาษี อาจถูกสรรพากรเรียกตรวจสอบ


🔹 4) ตรวจสอบจากข้อมูลการนำเข้าสินค้า

📌 หากคุณนำเข้าสินค้าจากจีนหรือประเทศอื่น ๆ ทางสรรพากรสามารถตรวจสอบได้จาก:
✅ ใบขนสินค้าของกรมศุลกากร
✅ ข้อมูลภาษีนำเข้าและ VAT ที่ต้องชำระ

💡 หากนำเข้าสินค้าเยอะ แต่แจ้งรายได้น้อยผิดปกติ อาจโดนตรวจสอบย้อนหลัง!


🔹 5) ตรวจสอบจากการแจ้งเบาะแสและข้อมูลสาธารณะ

📌 สรรพากรสามารถรับข้อมูลจาก:
✅ ลูกค้า หรือพนักงานที่เคยทำงานให้คุณ
✅ การแจ้งเบาะแสจากคู่แข่ง
✅ โพสต์ขายของในโซเชียลที่เปิดเผยยอดขาย

💡 หากขายของออนไลน์แต่ไม่เคยยื่นภาษี อาจถูกแจ้งเบาะแสและถูกตรวจสอบได้!


3. วิธีทำให้ถูกต้องและเลี่ยงปัญหากับสรรพากร

📌 1) แยกบัญชีธุรกิจและบัญชีส่วนตัว – ใช้บัญชีธนาคารสำหรับธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงถูกตรวจสอบผิดพลาด
📌 2) ยื่นภาษีให้ถูกต้อง – หากมีรายได้ควรยื่นภาษีตามจริง แม้จะมีค่าลดหย่อนและค่าใช้จ่ายที่ช่วยลดภาษีได้
📌 3) เก็บหลักฐานการขายและค่าใช้จ่าย – เช่น ใบเสร็จรับเงิน ค่าโฆษณา ค่าขนส่ง เพื่อลดภาระภาษี
📌 4) ตรวจสอบว่าต้องจด VAT หรือไม่ – หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม

💡 ถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องภาษี แนะนำให้ปรึกษาสำนักงานบัญชี หรือที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อความถูกต้อง!


📢 สรุป

✅ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเสียภาษี หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
✅ สรรพากรมี 5 ช่องทางตรวจสอบรายได้ ได้แก่ บัญชีธนาคาร, แพลตฟอร์มออนไลน์, ระบบ E-Payment, ข้อมูลนำเข้าสินค้า และการแจ้งเบาะแส
✅ หากมีรายได้แต่ไม่เคยยื่นภาษี อาจถูกตรวจสอบย้อนหลังได้
✅ ควรยื่นภาษีอย่างถูกต้อง แยกบัญชีธุรกิจ และเก็บหลักฐานรายรับ-รายจ่าย

 

📌 พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรรู้ทันภาษี เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมาย และดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง! 😊

ต้องการใช้บริการจดทะเบียนบริษัท หรือ ทำบัญชีกับเราสามารถติดต่อได้ที่
📞 โทร: 02 009 2298-99

📩 Email: atlcomany24@gmail.com
🌐 Website: www.atlcompany.co.th
📌 Facebook: ATL Company – รับจดทะเบียนบริษัท
📲 Line@: @atlcompany

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า