ทำยังไงให้ได้ภาษีคืน? เทคนิคขอคืนภาษีแบบถูกต้องและคุ้มค่า
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปที่เสียภาษี คุณอาจมีสิทธิ์ขอคืนภาษีจากกรมสรรพากรได้ การขอคืนภาษีเป็นเรื่องที่ทำได้จริง หากคุณเข้าใจหลักเกณฑ์และวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง มาดูวิธีที่ช่วยให้คุณได้รับภาษีคืนกัน
1. ภาษีคืนคืออะไร?
ภาษีคืน หมายถึง เงินภาษีที่คุณจ่ายเกินกว่าที่ควรจะเป็น โดยสามารถขอคืนจากกรมสรรพากรได้หลังจากยื่นแบบภาษี เช่น
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90, ภ.ง.ด.91)
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
หากคุณมีภาษีหัก ณ ที่จ่ายเกินกว่าที่ต้องจ่ายจริง หรือมีสิทธิ์หักลดหย่อนเพิ่มเติม กรมสรรพากรจะคืนเงินส่วนที่เกินให้คุณ
2. วิธีขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับผู้ที่มีรายได้และถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย สามารถขอคืนภาษีได้โดยปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
✅ 2.1 ตรวจสอบสิทธิ์หักลดหย่อนภาษี
การใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีจะช่วยลดฐานภาษีและเพิ่มโอกาสได้รับเงินคืน เช่น
🔹 ค่าลดหย่อนส่วนตัว – 60,000 บาท
🔹 ค่าลดหย่อนคู่สมรส – 60,000 บาท (ถ้าคู่สมรสไม่มีรายได้)
🔹 ค่าลดหย่อนบุตร – 30,000 บาทต่อคน
🔹 ประกันชีวิต – สูงสุด 100,000 บาท
🔹 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุน RMF/SSF – สูงสุด 500,000 บาท
🔹 ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน – สูงสุด 100,000 บาท
🔹 ค่าซื้อหนังสือ อุปกรณ์กีฬา ท่องเที่ยวเมืองรอง – ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
✅ 2.2 ตรวจสอบภาษีหัก ณ ที่จ่าย
หากคุณมีรายได้จากเงินเดือนหรือค่าจ้างอื่นๆ แล้วถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว อาจได้รับเงินคืนหากภาษีที่ถูกหักเกินกว่าที่ต้องจ่ายจริง
ตัวอย่าง:
คุณมีรายได้ต่อปี 300,000 บาท ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% เป็นเงิน 15,000 บาท แต่เมื่อนำค่าลดหย่อนต่างๆ มาคำนวณแล้ว พบว่าคุณต้องเสียภาษีเพียง 10,000 บาท คุณสามารถขอคืนภาษีส่วนที่เกิน 5,000 บาทได้
✅ 2.3 ยื่นแบบภาษีภายในกำหนดเวลา
- ยื่นแบบออนไลน์ผ่าน เว็บไซต์กรมสรรพากร จะได้รับเงินคืนเร็วกว่า
- หากต้องการเงินคืนเร็ว ควรเลือก “ขอคืนภาษีผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน”
3. วิธีขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคล
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจและต้องการขอคืนภาษี ต้องพิจารณาเรื่อง ภาษีหัก ณ ที่จ่ายและเครดิตภาษี
✅ 3.1 ตรวจสอบเครดิตภาษีที่สามารถขอคืนได้
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย – ธุรกิจที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากลูกค้า สามารถนำยอดภาษีที่ถูกหักไปขอคืนได้
- ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จ่ายเกิน – กรณีที่ธุรกิจมีรายได้ลดลงกว่าที่ประมาณการไว้ อาจทำให้มีการจ่ายภาษีล่วงหน้าเกินไป
✅ 3.2 ยื่นแบบภาษีให้ถูกต้องและภายในกำหนด
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 สำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี
- ตรวจสอบว่ามีภาษีที่สามารถขอคืนได้จากแบบ ภ.ง.ด.3 หรือ ภ.ง.ด.53
4. วิธีขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund)
หากธุรกิจของคุณจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย สามารถขอคืนภาษีได้ โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้
✅ 4.1 มีภาษีซื้อเกินกว่าภาษีขาย
หากธุรกิจซื้อสินค้าหรือบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มสูง แต่ขายสินค้าในอัตราที่ต่ำหรือได้รับยกเว้น VAT อาจมีภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ซึ่งสามารถขอคืนได้
✅ 4.2 ยื่นแบบ ภ.พ.30 ให้ถูกต้องและตรงเวลา
- ยื่นแบบ ภ.พ.30 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- หากขอคืนภาษีต้องแนบเอกสารประกอบ เช่น ใบกำกับภาษี
✅ 4.3 ตรวจสอบเงื่อนไขการขอคืน VAT
- ธุรกิจต้องเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- เอกสารภาษีต้องถูกต้องครบถ้วน
- มีการยื่นภาษีอย่างต่อเนื่อง
5. ข้อควรระวังในการขอคืนภาษี
❌ ยื่นเอกสารไม่ครบถ้วน – อาจทำให้การคืนภาษีล่าช้า
❌ ขอคืนภาษีโดยไม่มีหลักฐาน – อาจถูกตรวจสอบย้อนหลัง
❌ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนซ้ำซ้อน – อาจโดนปรับหรือถูกเรียกเงินคืน
6. สรุป
✅ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: ใช้สิทธิ์ลดหย่อนให้เต็มที่ และตรวจสอบภาษีหัก ณ ที่จ่าย
✅ ภาษีเงินได้นิติบุคคล: ตรวจสอบเครดิตภาษีที่ขอคืนได้ และยื่นแบบให้ถูกต้อง
✅ ภาษีมูลค่าเพิ่ม: ขอคืน VAT ได้หากมีภาษีซื้อเกินกว่าภาษีขาย
💡 เคล็ดลับสำคัญ:
- ยื่นภาษีให้ถูกต้องและตรงเวลา
- เก็บหลักฐานและเอกสารประกอบให้ครบถ้วน
- ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินคืนเร็วขึ้น
📌 หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการขอคืนภาษี ควรปรึกษานักบัญชีหรือที่ปรึกษาภาษีเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับสิทธิ์คืนภาษีอย่างถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด 🚀
ต้องการใช้บริการจดทะเบียนบริษัท หรือ ทำบัญชีกับเราสามารถติดต่อได้ที่
📞 โทร: 02 009 2298-99
📩 Email: atlcomany24@gmail.com
🌐 Website: www.atlcompany.co.th
📌 Facebook: ATL Company – รับจดทะเบียนบริษัท
📲 Line@: @atlcompany